จากการที่พม่ามีการปกครองในระบบสังคมนิยมในนามของ พรรคสังคมนิยมพม่า โดยมีพรรคทหารพรรคเดียวมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2505 ได้เกิดปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ มีการคอรัปชั่นในวงราชการอย่างมหาศาล ประชาชนถูกจำกัดเสรีภาพมาโดยตลอด จนกระทั่งเดือนสิงหาคม พ.ศ.2530 นักศึกษา ประชาชนทั่วประเทศ ได้รวมตัวกันชุมนุมประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย และรัฐบาลทหารได้ส่งกำลังทหารเข้าล้อมปราบปรามอย่างรุนแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก นักศึกษาและประชาชนจึงหลบหนีเข้าไปอยู่กับกองกำลังชนกลุ่มน้อยตามแนวชายแดนไทย-พม่า และบางส่วนได้หลบหนีเข้าลี้ภัยทางการเมืองอยู่ในประเทศไทย
ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล โดย พล.อ.ซอ หม่อง ได้จัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวขึ้นเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2531 และได้ใช้กำลังทหารเข้าปราบปรามกลุ่มต่อต้านต่างๆ ทำให้นักศึกษาและประชาชนพม่าหลบหนีเข้าร่วมกับกองกำลังชนกลุ่มน้อยและหลบหนีเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น จากนั้นรัฐบาลทหาร พล.อ.ซอ หม่อง ได้จัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2533 แต่รัฐบาลพม่ากำหนดเงื่อนไขหลายประการที่ส่อให้เห็นว่ารัฐบาลทหารคงจะไม่ยอมโอนอำนาจจากการบริหารประเทศให้แก่ พรรค National League for Democracy (NLD) ของนางออง ซาน ซูจี ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ได้รับคะแนนเสียงในการเลือกตั้งมากที่สุด
ดังนั้นเมื่อเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2533 จึงเกิดการประชุมประท้วงครั้งใหญ่ของนักศึกษา ประชาชน พระสงฆ์ และนักการเมือง ซึ่งรัฐบาลทหารได้ใช้กำลังปราบปรามอย่างเฉียบขาด ยังผลให้นักการเมือง นักศึกษา ครู อาจารย์ พระสงฆ์ ฯลฯ เป็นจำนวนมากต้องหลบหนีเข้ามาลี้ภัยในประเทศไทย
กำเนิดศูนย์นักศึกษาพม่ามณีลอย
เกี่ยวกับเรื่องเหตุการณ์ในพม่า รัฐบาลไทยตระหนักถึงความสำคัญตลอดมา เนื่องจากปัญหาที่อาจมีผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กับปัญหาความมั่นคงและภาพพจน์ของประเทศไทยในสายตาของนานาชาติ รัฐบาลไทยจึงมีการกำหนดมาตรการการดำเนินการต่อผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวพม่าด้วยความรอบคอบ มีการพิจารณาทบทวนแก้ไขหลายครั้ง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2531 เป็นต้นมา จนกระทั่งถึงรัฐบาลภายใต้การนำของ นายอานันท์ ปันยารชุน ได้มีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2534 อนุมัติให้จัดตั้ง "ศูนย์นักศึกษาพม่า" ขึ้น ณ บ้านมณีลอย ต.วังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี กำนดให้เป็นพื้นที่ควบคุมนักศึกษาพม่าที่หลบซ่อนอยู่ในราชอาณาจักรไทย
ที่ตั้งศูนย์นักศึกษาพม่ามณีลอย ต.วังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ภาพจาก Google |
โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ใช้อำนาจตามมาตรา 17 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และอนุมัติงบประมาณจากงบกลางประจำปี 2534 เป็นค่าใช้จ่ายในการเตรียมการและดำเนินงานศูนย์นักศึกษาพม่า ในระยะแรกเป็นเงินทั้งสิ้น 13,857,985 บาท โดยเริ่มดำเนินการก่อสร้างซ่อมแซมเตรียมสถานที่ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2535 และได้รับนักศึกษาพม่าเข้าพักอาศัยในศูนย์ฯ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2535 เป็นต้นมา
ภายในศูนย์ฯ มีพื้นที่ 200 ไร่ มีอาคารและสิ่งปลูกสร้าง ดังนี้
- อาคารอำนวยการ 1 หลัง
- อาคารรักษาการณ์ 2 หลัง
- อาคารสื่อสาร 1 หลัง
- อาคารพยาบาล 1 หลัง
- บ้านพักเจ้าหน้าที่ 4 หลัง
- เรือนพักเจ้าหน้าที่ (ห้องแถว) 1 หลัง
- โรงนันทนาการ 1 หลัง
- โรงอาหาร 1 หลัง
- อาคาเรียนรวม 2 หลัง
- อาคารเรียนชั่วคราว 1 หลัง
- โรงนอนที่ 1 อาคารคอนกรีต 2 ชั้น 1 หลัง
- โรงนอนที่ 2 อาคารไม้ชั้นเดียว 1 หลัง
- โรงนอนที่ 3 อาคารเล็ก 2 หลัง
- เรือนแถวที่พักครอบครัว 2 หลัง
- โรงนอนถาวร 8 หลัง
- โรงนอนชั่วคราว (คสล.) 4 หลัง
- โรงนอนชั่วคราว (ไม้มุงจาก) 28 หลัง
- โรงจ่ายอาหารแห้ง 1 หลัง
- โรงครัวประกอบอาหาร 4 หลัง
- ที่ทำการชั่วคราว UNHCR 1 หลัง
- อาคารสัมภาษณ์และเยียมญาติ 1 หลัง
ที่มาข้อมูล
ปรีชา เรืองจันทร์. (2543). ก๊อดอามี่ มณีลอย ปลุกราชบุรีเขย่าโลก. ราชบุรี : ธรรมรักษ์การพิมพ์.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น