วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2554

ประวัติศาลจังหวัดราชบุรี

ศาลจังหวัดราชบุรี ร.ศ. 126 (พ.ศ.2450)
อาคารศาลจังหวัดราชบุรีเดิมตั้งอยู่ในที่ราชพัสดุ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เป็นอาคารตึกก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น รูปทรงสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกรุ่นเก่า สร้างมาตั้งแต่ ร.ศ. 124 (พ.ศ. 2448) สมัยหลวงศรีสัตยารักษ์ (ห้าว วิระศิริ) เป็นอธิบดีผู้พิพากษาและเป็นผู้ควบคุมการก่อสร้าง

อาคารศาลมีห้องโถงใหญ่ชั้นล่าง 1 ห้อง ซึ่งเป็นห้องพิจารณาคดี ด้านหลังเป็นระเบียงในตัว รอบ ๆ ห้องโถงใช้เป็นที่ทำการของเจ้าหน้าที่ศาล ระเบียงด้านหลังดัดแปลงเป็นห้องพักและห้องทำงานผู้พิพากษา ประตูหน้าต่างเป็นรูปโค้ง มีช่องลมฉลุเป็นลายกนกสวยงาม ชั้นบนมีห้องโถงใหญ่ 1 ห้อง ใช้เป็นห้องสมุดประจำศาล  ระเบียงชั้นบนเป็นห้องเก็บสำนวนและพัสดุ

เปิดเป็นที่ทำการศาลจังหวัดราชบุรีเมื่อวันที่ 1 เมษายน ร.ศ. 126 (พ.ศ. 2450)  อาคารหลังนี้ได้ใช้งานมาถึงปี พ.ศ. 2496 ตัวอาคารได้ชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา อาคารมีรอยแตกร้าวมากขึ้น เนื่องจากแรงระเบิดของสงครามมหาเอเชียบูรพา

พระยาลัดพลีธรรมประคัลภ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายสัญญา ธรรมศักดิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม พระดุลยทรรศน์ปฏิภาณ ข้าหลวงยุติธรรมภาค 1 นายไฉน บุญยก ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล มีดำริที่จะสร้างศาลแห่งใหม่ขึ้น เนื่องจากตัวอาคารเดิมไม่ปลอดภัย สถานที่คับแคบ ห้องพิจารณาคดีมีไม่เพียงพอ เนื่องจากจำนวนอรรถคดีมีเพิ่มมากขึ้นทุกปี จึงได้ของบประมาณจากทางรัฐบาลในปี พ.ศ. 2497 ได้งบประมาณมาเป็นจำนวนเงิน 1,456,000 บาท โดยให้กรมโยธาเทศบาลเป็นผู้จัดการสร้าง

ศาลจังหวัดราชบุรี เมื่อ พ.ศ.2501
อาคารศาลจังหวัดราชบุรีหลังใหม่ เป็นตึกแบบทรงไทย 2 ชั้น ชนิด 6 บัลลังก์ ได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2497 ขณะนั้นนายบุศย์ ขันธวิทย์ เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาล หลวงสุทธิภาศนฤพนธ์ เป็นข้าหลวงยุติธรรมภาค 1 ต่อมานายเฉลิม ทัตภิรมย์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลคนใหม่ได้ย้ายมาดำเนินการควบคุมการก่อสร้างต่อ และได้รับเงินงบประมาณเพิ่มเติมในการก่อสร้างเป็นเงิน 759,220 บาท เพื่อถมดิน ทำรั้วเหล็กรอบบริเวณ สร้างห้องเก็บสำนวน เสาธง เดินสายไฟจากถนนใหญ่มายังอาคาร

อาคารศาลจังหวัดราชบุรีเปิดทำการ เมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2501 และได้ทำพิธีเปิดอาคารศาลจังหวัดราชบุรีหลังใหม่อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2502 ซึ่งเป็นวันชาติเดิม ขณะนั้นมีนายวิริยะ เกิดศิริ เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาล นายกำธร พันธุลาภ เป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม พระยาอรรถการีย์นิพนธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้มาเป็นประธานในพิธีเปิด

ต่อมาในปี พ.ศ. 2540 กระทรวงยุติธรรมได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 33,000,000 บาท เพื่อก่อสร้างต่อเติมอาคารศาลจังหวัดราชบุรีอีก 1 หลัง เป็นตึก 3 ชั้น เชื่อมต่อทางเดินระหว่างอาคารหลังเดิมกับอาคารหลังใหม่ มีห้องพักผู้พิพากษา ห้องสมุด ห้องประชุม ห้องทำงานธุรการ ห้องเก็บสำนวน ห้องพิจารณา

ศาลจังหวัดราชบุรีปัจจุบันตั้งอยู่เลขที่ 399/12 ถนนยุติธรรม ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี

ที่มาข้อมูลและภาพ
พิพิธภัณฑ์ศาลไทย. (2553). ประวัติศาลราชบุรี. [Online]. Available :
http://www.museum.coj.go.th/court/rachaburi.html. [2554 มกราคม 16 ].
อ่านต่อ >>

วันพุธที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2554

ผลการเลือกตั้งนายกฯ และ สท.เทศบาลตำบลหลักเมืองเมื่อ 9 ม.ค.2554

นางปาลิดา ประถมภัฎ
การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลตำบลหลักเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี นับเป็นสนามเลือกตั้งที่น่าจับตามอง เหตุเพราะเขตเทศบาลตำบลหลักเมือง มีพื้นที่ติดกับเขตเทศบาลเมืองราชบุรี มีเพียงแม่น้ำแม่กลองเป็นเขตแบ่งกัั้นเท่านั้น โดยเทศบาลเมืองราชบุรีอยู่ฝั่งขวาและเทศบาลตำบลหลักเมืองอยู่ฝั่งซ้าย ดังนั้นการพัฒนาต่างๆ ในเขตเทศบาลทั้งสองพื้นที่ จึงมีความเกี่ยวข้องและเกี่ยวโยงกันอย่างใกล้ชิด

ในเขตเทศบาลตำบลหลักเมือง ยังเป็นที่ตั้งของหน่วยทหารขนาดใหญ่ คือ กรมการทหารช่าง และจังหวัดทหารบกราชบุรี ดังนั้นการเลือกตั้งในแต่ละครั้งจึงมีอิทธิพลจากคะแนนเสียงของทหารเข้ามาเกี่ยวข้องพอสมควร  นอกจากนั้นในเขตเทศบาลตำบลหลักเมือง ยังเป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่คือ BigC  อีกด้วย

การเลือกตั้งในเขตเทศบาลตำบลหลักเมือง เป็นการเลือกตั้งนากยกเทศมนตรีโดยตรง ส่วน สมาชิกสภาเทศบาลฯ แบ่งออกเป็น 2 เขต เลือกได้เขตละ 6 คน รวมเป็น สท.ทั้งหมด 12 คน โดยแบ่งเขตดังนี้
  1. การเลือกตั้งนายกเทศมนตรี จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 13,048 คน
  2. เขตที่ 1 ตำบลโคกหม้อ จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 5,747 คน
  3. เขตที่ 2 ตำบลพงสวาย จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 7,301 คน
การเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม 2554 ที่ผ่านมา มีผู้สมัครนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลตำบลหลักเมือง จำนวน 2 กลุ่ม และ 1 ผู้สมัคร สท.อิสระคือ
  1. เบอร์ 1 นางปาลิดา ประถมภัฎ และ กลุ่ม สท. เบอร์ 1-6 (ทั้ง 2 เขต)
  2. เบอร์ 2 นายธรรมศักดิ์ ฤทธิ์แดง และ กลุ่ม สท.เบอร์ 7-12 (ทั้ง 2 เขต)
  3. ผู้สมัคร สท.อิสระ นายสายัณห์  ศรีสมุทรนาค เบอร์ 13 เขตที่ 2 ต.พงสวาย
ความเป็นมาของผู้สมัครนายกเทศมนตรี : นายธรรมศักดิ์ฯ เคยเป็นนายกเทศมนตรีมาก่อน แต่มาถูก นางปาลิดาฯ แย่งชิงตำแหน่งไปเมื่อสมัยที่แล้ว และในครั้งนี้ นายธรรมศักดิ์ฯ ลงสมัครเพื่อช่วงชิงตำแหน่งนายกฯ กลับคืนจากนางปาลิดา


ผลการเลือกตั้ง (อย่างไม่เป็นทางการ)
นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหลักเมือง
(เรียงตามลำดับคะแนน)

  1. นายธรรมศักดิ์ ฤทธิ์แดง จำนวน 4,628 คะแนน (เป็นนายกฯ)
  2. นางปาลิดา  ประถมฎภัฎ จำนวน 3,453 คะแนน (ห่างกัน 1,175 คะแนน)
สมาชิกสภาเทศบาลตำบลหลักเมือง เขตที่ 1 ต.โคกหม้อ
(เรียงตามลำดับคะแนน)
  1. นายสมศักดิ์  เดชคลัง (กลุ่มนางปาลิดาฯ)  จำนวน 1,567 คะแนน (เป็น สท.)
  2. ร.ต.เอนก  เดือนขึ้น (กลุ่มนายธรรมศักดิ์ฯ) จำนวน 1,566 คะแนน (เป็น สท.)
  3. นายสมมารถ  ดวงจันทร์ (กลุ่มนางปาลิดา) จำนวน 1,526 คะแนน (เป็น สท.)
  4. ร.ต.ธนู  น้อยบุญรอด (กลุ่มนายธรรมศักดิ์ฯ) จำนวน 1,519 คะแนน (เป็น สท.)
  5. นายสุกรี  คุณท้าวเทียม (กลุ่มนายธรรมศักดิ์ฯ) จำนวน 1,512 คะแนน (เป็น สท.)
  6. นายก่อเกียรติ  ธรรมประเสริฐ (กลุ่มนายธรรมศักดิ์ฯ) จำนวน 1,500 คะแนน (เป็น สท.)
  7. นายสนั่น  พวงมาลัย (กลุ่มนายธรรมศักดิ์) จำนวน 1,493 คะแนน
  8. นายสันติ  ควรคิด (กลุ่มนางปาลิดาฯ) จำนวน 1,459 คะแนน
  9. นายสุนทร พวงมาลัย (กลุ่มนางปาลิดาฯ) จำนวน 1,459 คะแนน
  10. น.ส.สมใจ  ศรีนวลจันทร์ (กลุ่มนางปาลิดาฯ) จำนวน (รอตรวจสอบ) คะแนน
  11. นายสาเรศน์  พุฒทอง (กลุ่มนางปาลิดาฯ) จำนวน 1,452 คะแนน
  12. นายประเสริฐ  หมื่นพรานคิรี (กลุ่มนายธรรมศักดิืฯ) จำนวน 1,428 คะแนน
สมาชิกสภาเทศบาลตำบลหลักเมือง เขตที่ 2 ต.พงสวาย
(เรียงตามลำดับคะแนน)
  1. นายสินาด  รุ่งจรูญ (กลุ่มนางปาลิดาฯ) จำนวน 2,168 คะแนน (เป็น สท.)
  2. นายสามารถ  โกสมุทร (กลุ่มนางปาลิดาฯ) จำนวน 2,050 คะแนน (เป็น สท.)
  3. จ.ส.อ.ประมวล เกตุไชโย (กลุ่มนางปาลิดาฯ) จำนวน 1,887 คะแนน (เป็น สท.)
  4. พ.ต.เงิน  บุญมีประเสิรฐ (กลุ่มนางปาลิดาฯ) จำนวน 1,881 คะแนน (เป็น สท.)
  5. น.ส.ธนวัน  เกิดบุญมี (กลุ่มนายธรรมศักดิ์ฯ) จำนวน 1,858 คะแนน (เป็น สท.)
  6. นางสำอางค์ นพรัตน์ (กลุ่มนายธรรมศักดิ์ฯ) จำนวน 1,767 คะแนน (เป็น สท.)
  7. นายวิชัย  เทพรส (กลุ่มนางปาลิดาฯ) จำนวน 1,749 คะแนน
  8. นายสมชาย  พุ่มสอาด (กลุ่มนายธรรมศักดิ์ฯ) จำนวน 1,737 คะแนน
  9. นายสุทิน  ภู่ฉุน (กลุ่มนางปาลิดาฯ) จำนวน 1,714 คะแนน
  10. น.ส.พะเยาว์  ไกรเพ็ชร (กลุ่มนายธรรมศักดิ์) จำนวน 1,702 คะแนน
  11. นายสมชาย  เนตรสว่าง (กลุ่มนายธรรมศักดิ์ฯ) จำนวน 1,680 คะแนน
  12. นายชุมพล   หมื่นศักดา (กลุ่มนายธรรมศักดิ์ฯ) จำนวน 1,553 คะแนน
  13. นายสายัณห์  ศรีสมุทรนาค (อิสระ) จำนวน 600 คะแนน
นายธรรมศักดิ์ ฤทธิ์แดง
สรุปในภาพรวม : 
  • นายธรรมศักดิ์  ฤทธิ์แดง ได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหลักเมือง
  • สมาชิกสภาเทศบาลตำบลหลักเมือง จำนวน 12 คน ประกอบด้วย สมาชิกกลุ่มนายธรรมศักดิ์ฯ จำนวน 6 คน และสมาชิกกลุ่มนางปาลิดาฯ จำนวน 6 คน
สถิติการเลือกตั้ง
การเลือกตั้งนายกเทศมนตรี
  • จำนวนผู้มีสิทธิ์ 13,048 คน
  • มาใช้สิทธิ์ 8,957 คน คิดเป็นร้อยละ 68.65
  • บัตรเสีย จำนวน 591 ใบ คิดเป็นร้อยละ 6.60
  • บัตรดี จำนวน 8,081 ใบ คิดเป็นร้อยละ 90.22
  • ไม่ประสงค์ลงคะแนน 285 ใบ คิดเป็นร้อยละ 3.18
การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล
  • จำนวนผู้มีสิทธิ์ 13,048 คน
  • มาใช้สิทธิ์ 8,953 คน คิดเป็นร้อยละ 68.61
  • บัตรเสีย จำนวน 629 ใบ คิดเป็นร้อยละ 7.03
  • บัตรดี จำนวน 7,920 ใบ คิดเป็นร้อยละ 88.46
  • ไม่ประสงค์ลงคะแนน 404 ใบ คิดเป็นร้อยละ 4.51
ข่าวลือที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้งครั้งนี้
(ข่าวลือนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใดๆ ทั้งสิ้น ผู้จัดทำเขียนขึ้นเพื่อเป็นความรู้ ตามที่ได้ฟังมา ขอสงวนสิทธิ์ในการนำไปฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อผู้จัดทำใดๆ ทั้งสิ้น ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณเอง)
  • มีการซื้อสิทธิ์ และขายเสียง ในราคาหัวละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท
  • ทหารไม่สนับสนุนทหารกันเอง : เนื่องจากผู้สมัครเบอร์ 1 (ซึ่งเคยได้รับการเลือกตั้งสมัยที่ผ่านมา)   เป็นภริยาของนายทหารชั้นผู้ใหญ่ในกรมการทหารช่าง ดังนั้นคะแนนเสียงของข้าราชการทหารและพลทหารที่อยู่ในสังกัด ย่อมมีผลต่อการเลือกตั้ง แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ปรากฏว่าทหารไม่ให้การสนับสนุนทหารกันเอง เนื่องจากอาจขาดความเชื่อมั่นและศรัทธา 
  • ชาวบ้านเบื่อทหาร จึงไม่เลือกเบอร์ 1 : ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ทหารพยายามลงไปมีบทบาทต่อการพัฒนาพื้นที่และจัดกิจกรรมในเขตเทศบาลตำบลหลักเมืองหลายเรื่อง (เนื่องจากนายกฯ เป็นภริยาของนายทหารชั้นผู้ใหญ่ในกรมการทหารช่าง จึงพยายามนำศักยภาพของทหารเข้าไปช่วยเหลือ)  จนบางครั้งชาวบ้านรู้สึกเบื่อหน่ายในการเข้าไปเจ้ากี้เจ้าการของทหาร บางครั้งเข้าไปวางก้าม วางอำนาจ จนเลยเถิดเกินหน้าที่ไป   ชาวบ้านจึงรู้สึกเบื่อและมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อทหาร จึงหันไปเลือกเบอร์ 2 ซึ่งเป็นอดีตนายกฯ เก่าแทน
  • ชมคลิบวีดีโอข่าวร้องเรียน
อ่านต่อ >>